สวัสดีค่ะทุกคน พบกับ Sanook คลุกข่าวเช้าประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 วันนี้เรามีข่าวสารมาอัปเดตให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเรื่องของคดีดังอย่าง "เสี่ยเจนภพ" ที่ขับรถเบนซ์พุ่งชน 2 รถของ 2 นักศึกษาปริญญาโทจนเสียชีวิตซึ่งศาลฎีกาได้ตัดสินให้จำเลยจำคุกเป็นเวลา 4 ปี รวมถึงมาตรการเยียวยา 5,000 บาท เราไม่ทิ้งกัน ซึ่งวันนี้จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการเยียวยา 5,000 บาท เพื่อหาข้อสรุปว่าจะช่วยเหลือคนที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จกว่า 1.7 ล้านคนหรือไม่ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่หลาย เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วกดปุ่มลำโพงแล้วไปฟังกันเลย!
ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 4 ปี "เสี่ยเจนภพ" ขับเบนซ์ชนรถฟอร์ด 2 นิสิต ป.โท
จากเหตุการณ์อุบัติเหตุเมื่อปี 2559 ที่นายเจนภพ วีรภพ อายุ 41 ปี นักธุรกิจ ขับรถเบนซ์รุ่นสีดำขับพุ่งชนรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้าจนเกิดไฟไหม้ บริเวณถนนพหลโยธิน กม. 53 หมู่ 8 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทำให้ นาย กฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ นางสาว ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย 2 นักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลองเสียชีวิตทั้งสองในเวลาต่อมา
คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายเจนภพ 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาเพิ่มโทษฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์เหลือโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา
ต่อมา นายเจนภพ ยื่นฎีกาขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการกำหนดโทษโดยให้เหตุผลว่าได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทย์ร่วมทั้ง 4 คน ศาลพิเคราะแล้วเห็นว่าจำเลยต้องรับผิดชอบให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 ตามกฎหมายในทางแพ่งอยู่แล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างวว่าจบการศึกษาจากต่างประเทศเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท มีคุณงามความดีช่วยเหลือผู้อื่น หลังเกิดเหตุบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายทั้ง 2 เป็นเวลา 2 เดือน 3 สัปดาห์ ศาลเห็นว่า ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษ โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ถือว่าเหมาะสมแล้ว
ดังนั้น ศาลฎีกาจึงมีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา
"สิตางศุ์ บัวทอง" หลั่งน้ำตา ชมภาพตำนานส้มหยุดบนผนังโบสถ์วัดหนองเต่า
จากกรณีที่วัดหนองเต่า มีภาพวาดเน็ตไอดอลกลุ่มเพศที่ 3 แทรกเข้าไปในภาพวาดตามตำนานพุทธประวัติในตอนที่มีผู้คนไปรอรับเสด็จพระพุทธเจ้า (ตามพุทธประวัติ) เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์
ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า พระพุทธองค์ลงมาโปรดทั้งสามโลก คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรกภูมิ โดยในภาพวาดได้แอบสอดแทรกภาพของ สิตางศุ์ บัวทอง กำลังชี้ผลส้ม เข้าไว้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์อย่างแนบเนียน แล้วนำโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จนมีชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงไม่ความเหมาะสมของภาพดังกล่าว
ล่าสุด สิตางศุ์ บัวทอง ได้เดินทางไปยังวัดหนองเต่า ด่วยชุดไทยสีแดงตามภาพที่เขียนบนผนังอุโบสถได้เข้าไปกราบไหว้พระประธานในอุโบสถ และชมภาพตนเองที่ถูกเขียนไว้อยู่บนผนังด้วยความซาบซึ้ง เจ้าตัวได้เข้าสวมกอดศิลปินผู้วาดและขอบคุณที่วาดภาพตนเองบนผนัง อีกทั้งยังได้มอบสินน้ำใจท่ามกลางประชาชนที่มาขอถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก หลังจากนั้น สิตางศุ์ ได้กราบนมัสการพระอธิการสมชาย เตชะภะโล เจ้าอาวาสวัดหนองเต่า และได้สนทนากัน โดยสิตางศุ์ได้นำปัจจัยทำบุญกับทางวัด พร้อมบอกว่าจะจัดผ้าป่ากฐินไปทอดที่วัดแห่งนี้ เพื่อร่วมระดมเงินทำบุญใช้ในการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถแห่งนี้ให้แล้วเสร็จ ส่งผลบรรยากาศในวัดเต็มไปด้วยรอยยิ้มของประชาชนที่ไปรอชม นอกจากนี้ สิตางศุ์ ได้กล่าวยืนยันว่า จะไม่ให้เปลี่ยนแปลงและแก้ไขภาพตัวเองชี้ส้มอย่างเด็ดขาด
ลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ไม่ผ่านกว่า 1.7 ล้านคน จ่อเยียวยากลุ่มตกหล่น
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการเยียวยา 5,000 บาท ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง จะเสนอการช่วยเหลือกลุ่มที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันไม่สำเร็จกว่า 1.7 ล้านคน ว่าที่ผ่านมาคัดกรองเท่าไหร่ หากผ่านเกณฑ์เกณฑ์จะจ่ายเยียวยา 5,000 บาท ให้ 3 เดือน
นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อศึกษา-หาข้อสรุปมาตรการการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ประชาชนสามารถเดินทางไปได้ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวไทย อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูภาคการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย
เอาล่ะดูเหมือนจะครบถ้วนเกือบทุกประเด็นแล้ว แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ สวัสดีค่ะ
"เอาล่ะ" - Google News
June 04, 2020 at 08:33AM
https://ift.tt/2yYk01s
Sanook คลุกข่าวเช้า 4 มิ.ย. 63 ศาลฏีกาตัดสินเสี่ยเจนภพยืนคุก 4 ปี-ลุ้นเราไม่ทิ้งกันอุ้ม 1.7 ล้านคน - Sanook
"เอาล่ะ" - Google News
https://ift.tt/36Ul8Qj
Home To Blog
No comments:
Post a Comment