Pages

Sunday, August 2, 2020

ทนายไขข้อสงสัย ปมดารม่า 'เก้า เกริกพล' และ 'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น' ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ - มติชน

kalihderes.blogspot.com

ทนายไขข้อสงสัย ปมดราม่า ‘เก้า เกริกพล’ และ ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคู่ใจ” ระบุว่า

#เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น #เก้าเกริกพล #เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว

เก้า เกริกพล vs เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น กับแง่มุมข้อกฎหมาย

เป็นดราม่าในวงการเพลงในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น นั่นคือน้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งประเด็นที่เป็นปัญหากันนั้น คือเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ซึ่งมีน้องเก้า เกริกพล ร่วม Featuring ทั้งร้องท่อนแก้ และแสดงมิวสิควิดีโอด้วย

เรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นคงเป็นเรื่องค่าตัวของน้องเก้า เกริกพล ในเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ซึ่งมียอดวิวในยูทูปกว่า 350 ล้านวิว

ซึ่งน้องเก้าบอกว่าตนเองนั้นได้เงินจากการร้องเพลงนี้แค่ 10,000 บาทเท่านั้น และนั่นไม่ใช่ค่าจ้าง แต่เป็นค่าน้ำมัน และค่าซื้อชุดประกอบการแสดง MV เท่านั้น ที่ตกลงกันไว้นั้นคือรายได้ 30% จากยูปทูป หรือการแสดงโชว์ทั้งหมด

แต่ฝ่ายน้องเจนนี่ เจ้าของค่ายบอกว่าไม่ได้ตกลงไว้แบบนั้น และไม่มีสัญญาลายลักษณ์อักษรเอาไว้ว่าจะแบ่ง ตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง และเงิน 10,000 บาทที่ให้ไปนั้น ก็คือค่าจ้าง

เอาล่ะสิครับ งานนี้ก็งัดกันมาด้วยข้อมูลคนละชุดกันเลย แต่ดูเหมือนกระแสสังคมจะเทใจไปยังฝ่ายน้องเก้า เกริกพล และร่วมใจกันโจมตีเจนนี่

ผมก็ไม่รู้นะครับว่าข้อเท็จจริง ใครพูดจริงพูดโกหกอย่างไร แต่ก็ขอวิเคราะห์ในแง่มุมกฎหมาย ตามรายละเอียดข้อมูลที่ปรากฎเป็นข่าวก็แล้วกัน

เรื่องที่น้องเจนนี่เจ้าของค่ายนั้นบอกว่าตนเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” อันนี้ไม่เถียงครับ

แต่ !!!! ในเพลง 1 เพลง 1 เพลงนั้น ไม่ได้มีแค่ลิขสิทธิ์ในเนื้อเพลง หรือทำนองอย่างเดียวนี่สิครับ

มีลิขสิทธิ์การเรียบเรียงเสียงประสาน / ลิขสิทธิ์ในงานบันทึกเสียง หรืองานโสตทัศนวัสดุ (พวกMV เพลงหรือแผ่นเสียงวีดีโอ)

อีกข้อนึงคือ “ สิทธินักแสดง ” ตัวนี้นี่แหละที่จะเป็นปัญหา เพราะตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มาตรา 4 เขียนว่า “นักแสดง” หมายความว่า ผู้แสดง นักดนตรี นักร้อง นักเต้น นักรำ และผู้ซึ่งแสดงท่าทาง ร้อง กล่าว พากย์ แสดงตามบทหรือในลักษณะอื่นใด

จะเห็นได้ว่า “นักร้อง” และ “ผู้แสดง” เข้านิยามของคำว่า “สิทธินักแสดง” จึงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์

ซึ่งตามปกติแล้วลิขสิทธิ์หลายชิ้นอาจมีเจ้าของลิขสิทธิ์รวมกันได้หลายคน เพราะกว่าจะออกมาเป็น 1 เพลงนั้นต้องผ่านกระบวนการมากมาย ซึ่งค่ายเพลงใหญ่ๆนั้นจะไม่มีปัญหา เพราะเขาจะเซ็นสัญญากันไว้ชัดเจน ว่าเพลงนั้นๆ ให้ตกเป็นลิขสิทธิ์ของค่าย ไม่ใช่ของนักร้อง หรือผู้ประพันธ์เพลง หรือเรียบเรียงเสียง ทำนอง

อ้าว !! แล้วกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาไว้ล่ะ ว่าให้ลิขสิทธิ์ตกเป็นของใคร ?

นั่นแหละครับคือปัญญา เพราะกฎหมายลิขสิทธิ์นั้น ให้สัณนิษฐานไว้ก่อนว่าคนที่สร้างสรรค์ผลงานในแต่ละส่วน ก็แยกกันเป็นเจ้าของสิทธิ์ตามส่วนนั้น เช่น ในเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว”

*** เนื้อร้อง / ทำนอง เจ้าของสิทธิ์ – น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

*****ลิขสิทธิ์เรียบเรียงเสียง – น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

*** งานบันทึกภาพ/ซีดี/วิดีโอ -น้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

*****สิทธิ์นักแสดง – เก้า เกริกพล / น้องลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

//// สาเหตุที่น้องเก้า เกริกพลมีสิทธิในเพลงนี้ก็ทั้งร้อง ทั้งแสดงนี่ครับ แล้วก็ไม่ได้มีสัญญากันเอาไว้ ว่างานที่สร้างสรรค์ขึ้นมานั้น ทั้งเสียงร้อง ทั้งการแสดงของน้องเก้า ให้ตกเป็นของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

เมื่อน้องเก้า มีสิทธิของนักแสดงอยู่นั้น น้องเก้าย่อมมีสิทธิ ในเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” เจนนี่จะเอาไปทำซ้ำ ดัดแปลง เพื่อการค้าไม่ได้ หากในอนาคตจะเอาเสียงน้องเก้า และงานแสดง MV ไปลงคาราโอเกะ หรืออัดแผ่นซีดีขาย ต้องขออนุญาตน้องเก้า เกริกพลก่อน หากไม่ขอนี่เข้าข่ายละเมิดสิทธินักแสดง

ส่วนกรณีปัญหาเงินเรื่องค่าตัวของน้องเก้านั้น ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มาตรา 45 ได้เขียนไว้ว่า หากนำบันทึกเสียงการแสดงนั้นไปเผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าแล้ว หรือเอาไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ให้ผู้นั้นจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรมแก่นักแสดง

ซึ่งค่าตอบแทนที่เป็นธรรมนี้เนี่ย กฎหมายก็ไม่ได้ระบุไว้ครับ วบ่ามันเท่าไหร่ แต่ให้คำนึงถึงอัตราค่าตอบแทนในธุรกิจประเภทนั้นๆ ซึ่งทั้งร้อง ทั้งแสดง ค่าตัวของน้องเก้านี่ไม่ใช่แค่ 10,000 แน่นอนครับ

แต่ควรจะเป็นเท่าไหร่ดีครับลูกเพจทุกท่าน หลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้าน ???? เพราะมีคนเปรยๆไว้ว่ายอดวิวยูทูป 1 ล้านวิว ได้ตั้ง 30,000 บาท ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร คลิปของทนายคู่ใจก็ไม่เคยถึงด้วยสิ

เห็นแล้วใช่มั้ยครับ ในกฎหมายลิขสิทธิ์นั้น ไม่ทำสัญญาไว้ มีแต่ผลเสียกับน้องเจนนี่ !!

แล้วส่วนที่เป็นผลเสียกับน้องเก้าเองก็มีเหมือนกัน ตรงที่ตกลงกันเอาไว้ว่าจะแบ่ง 30 % อาจจะต้องตีความว่าเป็นค่าตอบแทนนักแสดงหรือ เป็นส่วนแบ่งผลประโยชน์ตามสัญญา ที่ตกลงกันปากเปล่าก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันทางศาล

ซึ่งตรงส่วนนี้น้องเก้าค่อนข้างเสียเปรียบอยู่ ว่าจะได้ถึง 30% หรือไม่ เพราะไม่ได้มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ถึงแม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดให้ต้องทำเป็นสัญญาก็ตามที

เพราะอย่างนักแสดงภาพยนต์หลายๆคนที่ต่างประเทศก็เลือกจะรับค่าตัวถูก เพื่อไปแบ่งเอาในส่วนแบ่งหลังจากเข้าฉาย ก็มีกรณีให้เห็นแบบนี้เยอะเหมือนกัน

เรื่องนี้ก็ต้องตามดูกันต่อนะครับ ว่าท้ายที่สุด น้องเก้า เกริกพล จะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อทวงสิทธิที่ควรจะได้หรือไม่

หรือน้องเจนนี่จะยอมจ่ายค่าตัวน้องเก้าในจำนวนที่รับกันได้

แต่ที่แน่ๆ ชื่อเสียงมันเสียไปแล้ว มันยากที่จะเรียกคืนในเร็ววัน

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ครับ

#เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น #เก้าเกริกพล #เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียวเก้า เกริกพล vs เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น…

โพสต์โดย ทนายคู่ใจ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2020

Let's block ads! (Why?)



"เอาล่ะ" - Google News
August 02, 2020 at 10:07PM
https://ift.tt/3k2yRL9

ทนายไขข้อสงสัย ปมดารม่า 'เก้า เกริกพล' และ 'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น' ใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ - มติชน
"เอาล่ะ" - Google News
https://ift.tt/36Ul8Qj
Home To Blog

No comments:

Post a Comment